ขอร้องล่ะ อย่าเปิดตาข้างเดียวกันจะได ้ไหม
การปิดตาข้างเดียว แล้วเอาข้อมูลข้างเดียวมาขย ายต่อ
ขอบ่นอีกซักที มันปวดใจ
ไม่รู้อะไรกันนักหนา
ฟากฝั่งหนึ่ง ก็ได้ข่าวมาตลอดมาว่า
คนในเมือง ไม่เห็นพวกเขาเป็นคน
ได้ข่าวว่า คนที่พวกเขารัก โดนรังแก จากคนที่พวกเขา “เคย”
รักเขาเข้าใจว่าพวกเขาโดน ทิ้ง โดนฆ่า โดนเหยียดหยาม
คุณว่ามัน “จริง” แค่ไหน ข่าวพวกนี้ เราเองก็ไม่รู้หรอก รู้แต่มันไม่ถูกทั้งหมดแน่
แต่พวกเขาก็เชื่อทั้งหมด บางคนเชื่อแล้วเศร้า แต่บางคนเศร้าแล้วสู้ บางคนไม่เศร้า
แต่ห้าว ไม่รู้อะไรมากนัก แต่บ้าดีเดือด(กลุ่มที่ถูกใ ช้เป็นเครื่องมือมากที่สุด)
อีกกลุ่ม ก็ตั้งป้อมเหยียดหยาม ว่าฟากข้างต้นนั้น โง่เง่าเต่าตุ่น
ฟังความข้างเดียว ไม่รักชาติ หวังทำลายสิ่งที่เขารัก
Effect คือ การกระจายข้อความสาดเสีย เทเสียประนามบุคคลต่างๆ ทั้งๆที่ไม่เคยหาที่มาว่าคน คนนั้นเป็นใคร
ข้อความ FW ที่ได้มานั้น จริงหรือไม่ ไม่เคยสืบ ไม่เคยค้นเอาสะใจว่า ไม่สนใจว่าจะทำลายใคร เพียงเพราะเชื่อว่า
สิ่งที่ตนรู้นั้นจริง ใครที่ไม่เห็นด้วย(แม้แต่เล ็กน้อย) มันผู้นั้นไม่รักชาติ
อุ๊บอิ๊บ ความรักชาติไว้เป็นของตนและ คนที่เห็นด้วยกับตน “ทั้งหมด” เท่านั้น
(พวกนี้ เราไม่ได้หมายถึงสีใดสีหนึ่ ง แต่เรารวมคนที่มีพฤติกรรมอย ่างนี้ไว้เป็นกลุ่มนี้)
อีกพวก เห็นว่าพวกแรกถูกรังแกและตั วเองเป็นผู้ผดุงความถูกต้อง
ไม่รู้แหละ ต้องปกป้องผู้ที่ถูกรังแกคน ที่อยู่ตรงกันข้ามพวกแรก
ว่าพวกที่อยู่ตรงข้ามกับพวก แรกนั้นทำร้ายคนที่ด้อยกว่า
ลืมไปว่า พวกที่ปะปนอยู่กับพวกแรกนั้ น ไม่ได้เป็นพวกถูกรังแก
แต่เป็นพวกบ่อนทำลาย(อย่าเถ ียงกันเชียวว่าไม่มี)
เราไม่ขอนับคน ที่ให้ข้อมูลกับคนทั้งสามฝั ่งเพราะ
คนที่ให้ข้อมูลนั้น เราไม่รู้จริงๆ ว่าจุดมุ่งหมายคนพวกนั้นคือ อะไร
แต่ที่อยากฝากซักนิด เราอยากให้เปิดตาอีกข้าง
ไม่อยากให้เหมารวม ทุกกลุ่ม อ้างรักชาติ
อ้างรักในหลวง แต่ยังคงใส่ร้าย ใส่ความ ให้กันและกัน
ไม่เคยคิดจะหาตื้นลึกหนาบาง มีแต่ข่าวว่าๆๆๆ
แล้วเราก็ทะเลาะกัน
“…กิจเฉพาะหน้าของเราทั้งหล ายทุกคนที่จะต้องทำ ก็คือ
ต้องรับสถานการณ์อันวิกฤตนี ้ด้วยใจอันมั่นคง ไม่หวั่นไหวและด้วยความรู้เ ท่าถึงการณ์
พร้อมกับร่วมมือร่วมใจกันปฏ ิบัติแก้ไขผ่อนหนักให้เป็นเ บา ด้วยความสงบและพร้อมเพรียง ไม่ก่อความวุ่นวายให้สถานกา รณ์ยิ่งร้ายลงไปอีก ทุกฝ่ายจำเป็นต้องเข้าใจในก ันและกัน
เห็นใจกัน เสียสละประโยชน์ส่วนตัวเพื่ อประโยชน์ส่วนรวม ร่วมกันอุ้มชูกันไว้
เหมือนดังที่ได้เคยอุ้มชูกั นมาแต่กาลก่อน เมื่อรวมกันดังนี้
ก็จะเกิดพลังยิ่งใหญ่ ที่จะสามารถขจัดอุปสรรคขัดข ้องทั้งปวงให้หมดสิ้นไปได้ใ นที่สุด…”
พระราชดำรัส พระราชทานแก่ประชาชนชาวไทย ในโอกาสขึ้นปีใหม่ ๒๕๑๖
ณ พลับพลาท้องสนามหลวง
วันจันทร์ ที่ ๓๑ธันวาคม ๒๕๑๖
“...ความสุข ความสวัสดีของข้าพเจ้า
จะเกิดขึ้นได้ ก็ด้วยบ้านเมืองของเรามีควา มเจริญ
มั่นคง เป็นปกติสุข...”
พระราชดำรัสพระบาทสมเด็จพระ ปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช
เนื่องในโอกาส เสด็จออกมหาสมาคม
ณ พระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย วันที่ ๕ ธันวามคม ๒๕๕๒
แล้วหลายท่าน ที่อ้างว่าสู้เพื่อในหลวง อ้างว่าปกป้องในหลวง
อ้างไปถึงความจงรักภักดี วันนี้ทำตามพระราชดำรัสได้ห รือยัง?
....ไม่ต้องตอบเรา ตอบใจตัวเอง...
คงมีคนบอกว่าทีเราเองยังแปะ ข่าว กระจายข่าว
ข่าวสำหรับเราคือการอัพเดทข ้อมูล
เราไม่เคยแปะข้อมูลข่าวที่เ อียงข้างใดสุดกู่
(สังเกต ขวาสุด ซ้ายสุด ไม่เคยแปะ)
ส่วนเพื่อน หรือ เครือข่ายที่อยู่กับเราเราเ ชื่อว่ามีวิจารญาณในการวิเค ราะห์ข้อมูล
ยังย้ำจุดยืน เราเองไม่ได้เป็นกลาง ยังมีอัคติ
แต่เราไม่เคยดูถูกใคร ไม่ได้ขอให้ใครมาคิดเหมือนเ รา
เพียงแต่อยากให้เปิดตา อีกข้างของท่าน
เพราะการที่ต่างฝ่ายต่างปิด ตาข้างหนึ่ง
ทำให้เรามีวันที่ ๑๙ พฤษภาคม ๒๕๕๓
ต่อนี้จะเป็นอย่างไร ขึ้นอยู่กับพวกเราแล้ว ว่าจะเอาไงต่อ
จะตีกันต่อไป หรือจะแก้ไขปัญหา เลือกกันเองค่ะ
...สังเกตุไหม...๓๗ปีผ่านไป ปัญหาของประเทศไทยก็ยังเป็น เรื่องเดิม
การปิดตาข้างเดียว แล้วเอาข้อมูลข้างเดียวมาขย
ขอบ่นอีกซักที มันปวดใจ
ไม่รู้อะไรกันนักหนา
ฟากฝั่งหนึ่ง ก็ได้ข่าวมาตลอดมาว่า
คนในเมือง ไม่เห็นพวกเขาเป็นคน
ได้ข่าวว่า คนที่พวกเขารัก โดนรังแก จากคนที่พวกเขา “เคย”
รักเขาเข้าใจว่าพวกเขาโดน ทิ้ง โดนฆ่า โดนเหยียดหยาม
คุณว่ามัน “จริง” แค่ไหน ข่าวพวกนี้ เราเองก็ไม่รู้หรอก รู้แต่มันไม่ถูกทั้งหมดแน่
แต่พวกเขาก็เชื่อทั้งหมด บางคนเชื่อแล้วเศร้า แต่บางคนเศร้าแล้วสู้ บางคนไม่เศร้า
แต่ห้าว ไม่รู้อะไรมากนัก แต่บ้าดีเดือด(กลุ่มที่ถูกใ
อีกกลุ่ม ก็ตั้งป้อมเหยียดหยาม ว่าฟากข้างต้นนั้น โง่เง่าเต่าตุ่น
ฟังความข้างเดียว ไม่รักชาติ หวังทำลายสิ่งที่เขารัก
Effect คือ การกระจายข้อความสาดเสีย เทเสียประนามบุคคลต่างๆ ทั้งๆที่ไม่เคยหาที่มาว่าคน
ข้อความ FW ที่ได้มานั้น จริงหรือไม่ ไม่เคยสืบ ไม่เคยค้นเอาสะใจว่า ไม่สนใจว่าจะทำลายใคร เพียงเพราะเชื่อว่า
สิ่งที่ตนรู้นั้นจริง ใครที่ไม่เห็นด้วย(แม้แต่เล
อุ๊บอิ๊บ ความรักชาติไว้เป็นของตนและ
(พวกนี้ เราไม่ได้หมายถึงสีใดสีหนึ่
อีกพวก เห็นว่าพวกแรกถูกรังแกและตั
ไม่รู้แหละ ต้องปกป้องผู้ที่ถูกรังแกคน
ว่าพวกที่อยู่ตรงข้ามกับพวก
ลืมไปว่า พวกที่ปะปนอยู่กับพวกแรกนั้
แต่เป็นพวกบ่อนทำลาย(อย่าเถ
เราไม่ขอนับคน ที่ให้ข้อมูลกับคนทั้งสามฝั
คนที่ให้ข้อมูลนั้น เราไม่รู้จริงๆ ว่าจุดมุ่งหมายคนพวกนั้นคือ
แต่ที่อยากฝากซักนิด เราอยากให้เปิดตาอีกข้าง
ไม่อยากให้เหมารวม ทุกกลุ่ม อ้างรักชาติ
อ้างรักในหลวง แต่ยังคงใส่ร้าย ใส่ความ ให้กันและกัน
ไม่เคยคิดจะหาตื้นลึกหนาบาง
แล้วเราก็ทะเลาะกัน
“…กิจเฉพาะหน้าของเราทั้งหล
ต้องรับสถานการณ์อันวิกฤตนี
พร้อมกับร่วมมือร่วมใจกันปฏ
เห็นใจกัน เสียสละประโยชน์ส่วนตัวเพื่
เหมือนดังที่ได้เคยอุ้มชูกั
ก็จะเกิดพลังยิ่งใหญ่ ที่จะสามารถขจัดอุปสรรคขัดข
พระราชดำรัส พระราชทานแก่ประชาชนชาวไทย ในโอกาสขึ้นปีใหม่ ๒๕๑๖
ณ พลับพลาท้องสนามหลวง
วันจันทร์ ที่ ๓๑ธันวาคม ๒๕๑๖
“...ความสุข ความสวัสดีของข้าพเจ้า
จะเกิดขึ้นได้ ก็ด้วยบ้านเมืองของเรามีควา
มั่นคง เป็นปกติสุข...”
พระราชดำรัสพระบาทสมเด็จพระ
เนื่องในโอกาส เสด็จออกมหาสมาคม
ณ พระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย วันที่ ๕ ธันวามคม ๒๕๕๒
แล้วหลายท่าน ที่อ้างว่าสู้เพื่อในหลวง อ้างว่าปกป้องในหลวง
อ้างไปถึงความจงรักภักดี วันนี้ทำตามพระราชดำรัสได้ห
....ไม่ต้องตอบเรา ตอบใจตัวเอง...
คงมีคนบอกว่าทีเราเองยังแปะ
ข่าวสำหรับเราคือการอัพเดทข
เราไม่เคยแปะข้อมูลข่าวที่เ
(สังเกต ขวาสุด ซ้ายสุด ไม่เคยแปะ)
ส่วนเพื่อน หรือ เครือข่ายที่อยู่กับเราเราเ
ยังย้ำจุดยืน เราเองไม่ได้เป็นกลาง ยังมีอัคติ
แต่เราไม่เคยดูถูกใคร ไม่ได้ขอให้ใครมาคิดเหมือนเ
เพียงแต่อยากให้เปิดตา อีกข้างของท่าน
เพราะการที่ต่างฝ่ายต่างปิด
ทำให้เรามีวันที่ ๑๙ พฤษภาคม ๒๕๕๓
ต่อนี้จะเป็นอย่างไร ขึ้นอยู่กับพวกเราแล้ว ว่าจะเอาไงต่อ
จะตีกันต่อไป หรือจะแก้ไขปัญหา เลือกกันเองค่ะ
...สังเกตุไหม...๓๗ปีผ่านไป
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น